มาตรการธนาคาร LTV (Loan-To-Value) อัพเดทล่าสุด 2567

LVT 2567

มาตรการ ltv คืออะไร เราจะพามาหาคำตอบ สำหรับคนที่อยากมีบ้านและเจอโครงการที่ชอบ ทำเลที่ใช่แล้ว ขั้นตอนถัดไปคือการยื่นกู้กับทางธนาคาร สิ่งสำคัญเลยคือ ผู้กู้ต้องศึกษาหาข้อมูลให้ดี ในปัจจุบันธนาคารจะพิจารณาสินเชื่อเป็นไปตามเงื่อนไขที่เรียกว่า ltv วันนี้เราจะทุกคนไปดูกันว่า เงื่อนไขดังกล่าวนี้ คืออะไร มาตรการ ltv คืออะไร ส่งผลกระทบต่อผู้ซื้ออย่างไร

LTV 2567

Assetconnext จะขอพาทุกคนมาทำความรู้จักกับ เงื่อนไข ltv อัพเดทล่าสุดในปี 2567 ถือว่าเป็นฉบับปรับปรุงเรียบร้อย คำว่า LTV ย่อมาจาก Loan to Value คือ เพดานสินเชื่อ ซึ่งถูกกำหนดโดยธนาคารแห่งประเทศไทย มีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันการก่อหนี้เกินตัวของประชาชน และยังป้องกันไม่ให้เกิดการเก็งกำไร ช่วยยกระดับมาตรฐานการพิจารณาสินเชื่อบ้านของธนาคารต่างๆ มาตรการ ltv อ้างอิงจากประกาศของธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สนส.24/2561 หลักเกณฑ์การกำกับดูแลสินเชื่อ เพื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่อ ที่เกี่ยวเนื่องกับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย สำหรับสูตรคำนวณอัตราส่วนที่ทางธนาคารสามารถให้สินเชื่อได้นั้น จะมีการนำมาเปรียบเทียบกับราคาบ้านที่ซื้อ

สูตรคำนวณมีดังต่อไปนี้

LTV = L x 100 / V มีหน่วยเป็นเปอร์เซ็นต์ หรือ คำนวณจากเงินที่ทางธนาคารปล่อยกู้ L : Loan นำมาหารด้วยราคาบ้าน V : Value หน่วยเป็น %

เงื่อนไข ltv

มาตรการ LTV บ้านหลังแรก และหลังที่ 2 หลังที่ 3

1. บ้านราคาต่ำกว่า 10 ล้านบาท

  • บ้านราคาต่ำกว่า 10 ล้าน สำหรับกู้ซื้อบ้านหลังแรก วงเงินการให้สินเชื่อสูงสุด 110% เพดานการกู้ได้สูงสุดคือ 100% หรือไม่เกิน 10 ล้านบาท นอกจากนั้นยังสามารถกู้ตกแต่งเพิ่มเติมได้ แต่ไม่เกินอีก 10%
  • บ้านราคาต่ำกว่า 10 ล้าน สำหรับซื้อบ้านหลังที่สอง หลังจากที่ผ่อนบ้านหลังแรกมาแล้ว 3 ปีขึ้นไป วงเงินการให้สินเชื่อสูงสุดไม่เกิน 90%
  • บ้านราคาต่ำกว่า 10 ล้าน สำหรับบ้านหลังที่สอง หากยังผ่อนบ้านหลังแรกไม่ถึง 3 ปี วงเงินการให้สินเชื่อสูงสุดไม่เกิน 80%
  • บ้านราคาต่ำกว่า 10 ล้าน สำหรับบ้านหลังที่สามเป็นต้นไป วงเงินการให้สินเชื่อสูงสุดไม่เกิน 70%

2. บ้านราคาตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป

  • บ้านราคาตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป หากเป็นการซื้อบ้านหลังแรกและหลังที่สอง (สัญญาที่ 1 และ 2) วงเงินการให้สินเชื่อตั้งแต่ 80% ขึ้นไปแต่ไม่เกิน 90%
  • บ้านราคาตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป หากเป็นบ้านหลังที่ 3 เป็นต้นไป วงเงินการให้สินเชื่อสูงสุดไม่เกิน 70%

ทำไมต้องปิดหนี้บัตรเครดิตกับ
Assetconnext

มาตรการ LTV ส่งผลต่อผู้ซื้อ-ผู้ขายอย่างไร

1. ผู้ซื้อ

มาตรการ LTV 2567 แน่นอนว่าส่งผลกระทบต่อผู้ซื้อ แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่ 1 ผู้ที่ต้องการซื้อบ้าน ราคาไม่เกินหลังละ 10 ล้านบาท กรณีบ้านหลังแรก ผู้ซื้อในกลุ่มนี้ สามารถกู้ได้ในวงเงินเต็มที่คือ 100% ของราคาบ้าน อีกทั้งยังสามารถกู้เพิ่มเติม เป็นค่าตกแต่งบ้านได้อีก 10% ของราคาบ้าน กลุ่มนี้ ไม่ได้รับผลกระทบจากมาตรการ ltv ที่อัปเดตในปัจจุบัน กลุ่มที่ 2 ที่ต้องการซื้อบ้าน ราคาไม่เกินหลังละ 10 ล้านบาท กรณีบ้านหลังที่ 2 เป็นต้นไป กลุ่มนี้เอง ที่ได้รับผลกระทบเพราะเพดานการปล่อยกู้ คือ 70-90% ไม่สามารถกู้เพิ่มเติมได้ เพื่อเอาไปใช้ตกแต่งบ้าน และยังต้องเตรียมเงินดาวน์ 10-30% ของราคาบ้านด้วย ถ้าไม่ได้เตรียมตัวเก็บเงินหรือวางแผนมาดี โอกาสซื้อบ้านเป็นของตัวเองนั้นยาก

2. ผู้ขาย

ไม่เพียงจะกระทบต่อผู้ซื้อเท่านั้นแต่ มาตรการ ltv ยังส่งผลกระทบต่อผู้ขายอีกด้วย ทำให้ยอดขายบ้านหรือแม้แต่คอนโดเอง ลดน้อยลง ยิ่งเป็นกลุ่มที่ราคาบ้านหรือคอนโด ราคาเกิน 10 ล้านบาท เนื่องจาก ผู้ซื้อบางส่วนที่ไม่สามารถกู้เงินจากธนาคารได้เต็มที่ บวกกับไม่ได้เตรียมเงินดาวน์เอาไว้ด้วยนั่นเอง

ตัวอย่างการคำนวณ LTV เบื้องต้น

LTV คือ เพดานสินเชื่อที่กำหนดขึ้นโดยธนาคารแห่งประเทศไทย อย่างที่บอกว่าสูตรคือ LTV = L x 100 / V มีหน่วยเป็นเปอร์เซ็นต์ เราขอยกตัวอย่างการคำนวณเพื่อให้ทุกคนเข้าใจง่ายๆ ดังต่อไปนี้

ตัวอย่างการคำนวณ LTV

สมมติว่า นาย ก ยื่นกู้กับทางธนาคาร ซื้อบ้านราคา 5 ล้านบาท ทางธนาคารปล่อยกู้ 4.5 ล้านบาท หากแทนค่าในสูตรจะได้ดังนี้ LTV = 4.5 x 100/5 เท่ากับ 90% จากตัวอย่างจะเห็นได้ว่า LTV มีผลต่อจำนวนเงินปล่อยกู้ ยิ่ง LTV น้อย ธนาคารก็จะปล่อยเงินกู้น้อยลงไปด้วยนั่นเอง

ตัวอย่างการประเมินวงเงินเบื้องต้น

  1. นาย ก ต้องการซื้อบ้านหลังแรกในราคา 5 ล้านบาท อ้างอิงจากเงื่อนไข ltv เพดานเงินกู้ไม่เกิน 100% หรือต้องไม่เกิน 5 ล้านบาท สามารถกู้เพิ่มเติม ซื้อของตกแต่งบ้านได้อีก 10% หรือไม่เกิน 5 แสนบาท
  2. หากนาย ก อยากซื้อบ้านภายใต้มาตรการ ltv บ้านหลังที่ 2 ในราคา 3 ล้านบาท เมื่อผ่อนบ้านหลังแรกมาแล้ว 1 ปี ตามเงื่อนไขของมาตรการ ltv กู้ได้วงเงินสูงสุด 80% หรือประมาณ 2.4 ล้านบาท ต้องมีเงินดาวน์ 20% หรือประมาณ 6 แสนบาท นอกจากนั้นยังต้องมีเงินสำรองเตรียมไว้ตกแต่งบ้านเองด้วย

เงื่อนไขผู้ที่จะสมัคร
โครงการ

รวมหนี้ สินเชื่อ กู้บ้านเงินเหลือ ปิดหนี้บัตรให้ก่อน

อยากปิดหนี้บัตรต่าง ๆ พร้อมรับเงินก้อน 100K + | Assetconnext

สิ่งที่หลายคนไม่รู้คือ มาตรการ ltv จะใช้เฉพาะในส่วนของเพดานการปล่อยวงเงินกู้สูงสุด การปล่อยกู้ยังมีเงื่อนไขต่างๆ ด้วย ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขในแต่ละธนาคาร ดังนั้น ไม่ได้หมายความว่าเราจะสามารถกู้ได้เต็มเพดานเสมอไป อีกทั้งการกู้ซื้อบ้าน นอกจากมาตรการ ltv แล้วยังต้องคำนึงถึงเรื่องของดอกเบี้ย ค่างวดที่ต้องชำระ รวมถึงยังต้องเตรียมเงินสำรองค่าตกแต่งให้พร้อม เพราะค่าใช้จ่ายเหล่านี้อาจทำให้เราประสบปัญหาทางการเงินได้ สำหรับคนที่อยากกู้ซื้อบ้าน คอนโดเงินเหลือ กู้บ้านปิดหนี้ อาจมองว่าเป็นไปได้ยากเพราะมาตรการ ltv เข้ามามีผลกระทบ แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เลย AssetConnex เราช่วยได้ กู้บ้านคอนโดเงินเหลือ รับเงินทอน ก้อนใหญ่ 100K ไปใช้จ่ายตามต้องการ หรือต้องการปิดหนี้บัตรเครดิต รวมหนี้สิน จัดการทุกปัญหาทางการเงินแต่ไม่รู้จะหันไปพึ่งใคร ปรึกษาเราได้ AssetConnex ยินดีให้บริการ

เอาเป็นว่าถ้าคุณกำลังวางแผนจะซื้อบ้านหรือคอนโด มองหาที่ปรึกษากู้ซื้อบ้านเงินเหลือ กู้ซื้อคอนโดเงินเหลือ แอสเซทคอนเน็กซ์ (AssetConnext) เราช่วยได้ ช่วยแนะนำหรือให้คำปรึกษากู้ซื้อบ้าน-คอนโดเงินเหลือเต็มๆ 100k รวมหนี้บัตรเครดิต รวมหนี้สินเชื่อ ซื้อบ้านปิดหนี้ให้ก่อน ปิดบัตรเครดิตหลายใบ ปิดหนี้นอกระบบติดบูโร ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายต่อเดือน ปลดล็อคทุกปัญหาสู่อิสรภาพทางการเงิน แม้ว่าการกู้บ้านเงินเหลือ หรือคอนโดเงินเหลือจะมีมาตรการ ltv กำหนดเพดานเงินกู้ แต่บอกเลยว่าไม่ใช่ปัญหาแค่ปรึกษาเรา บริการกู้บ้าน กู้คอนโดเงินเหลือ ในวงเงินที่ต้องการ สูงกว่าราคาที่ต้องจ่าย ทำให้ได้เงินเหลือมาใช้ ตกแต่งบ้าน รับเงินทอนไปเต็มๆ

Banner MB
คอนโดเงินเหลือ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *